สร้างธุรกิจให้ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนด้วยทฤษฎี 7S
ทฤษฎี “7S” เพื่อธุรกิจ คือทฤษฎีที่ผู้ประกอบการต้องรู้ เพื่อให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมีคุณภาพในยุคแห่งการแข่งขันสูงเช่นนี้
- Strength (จุดแข็ง) คือสิ่งที่ธุรกิจทุกประเภทต้องมี เพราะ “การมีจุดแข็งคือความได้เปรียบที่ดีที่สุด” ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสินค้า การบริการ หรือแม้แต่วัฒนธรรมขององค์กร เมื่อเรามีการพัฒนาจุดแข็งย่างต่อเนื่องก็จะทำให้เราอยู่เหนือกว่าคู่แข่งได้เสมอ
- Story (ตำนานและเรื่องราว) การนำ Profile มาเรียงต่อกันให้เป็น Story เป็นการเล่าเรื่องที่น่าสนใจมากที่สุด ช่วยสร้างความประทับใจและทำให้ลูกค้าเข้าใจวิสัยทัศน์ของแบรนด์ได้มากขึ้นอีกด้วย
- Style (เอกลักษณ์แบบเฉพาะตัว) การหาเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร รวมถึงการปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับยุคสมัยไม่ว่าจะรูปแบบสินค้าหรือว่าบริการ และต้องอยู่ในความสนใจของ Target ถือว่าเป็นจุดสำคัญในการทำธุรกิจ
- Service (บริการที่ดี) เป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจ เพื่อสร้างความประทับใจให้ลูกค้าใหม่และยังสามารถรักษาฐานลูกค้าเดิมไว้ได้อีกด้วย
- Sincerity (ความจริงใจในธุรกิจ) การทำธุรกิจด้วยความจริงใจ เราต้องแสดงความซื่อสัตย์ต่อลูกค้า ไม่โฆษณาเกินจริง เอาใจใส่ลูกค้าในด้านต่าง ๆ สิ่งเหล่านี้ จะทำให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนตามทฤษฎี 7S
- Sensitivity (ไวต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น) คนที่จะทำธุรกิจได้ดีนั้นคือต้องพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงตามเทรนด์ของผู้บริโภคอยู่เสมอ สามารถปรับตัวได้ตามยุคสมัย เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างตรงจุด
- Sustainability (ตอบสนองความต้องการของสังคม) ธุรกิจยุคใหม่จะเดินหน้าเรื่องผลประกอบการอย่างเดียวไม่ได้ เราต้องให้ความสำคัญกับ “การคืนกำไรให้สังคม” นอกจากจะเป็นการทำสิ่งดี ๆ เพื่อสังคมแล้วยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ธุรกิจอีกด้วย
จากทฤษฎี 7S จะเห็นถึงความสัมพันธ์ของปัจจัยต่าง ๆ ทั้ง 7 ประการ ซึ่งมีผลทำให้องค์กรธุรกิจประสบความสำเร็จ ดังนั้น การดำเนินธุรกิจในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงและแข่งขันกันมากขึ้น ผู้ดำเนินธุรกิจต้องเรียนรู้และพัฒนาอยู่เสมอที่ เพื่อให้ก้าวทันตามยุคสมัยและสามารถปรับตัวตามเทรนด์ของตลาดได้จึงจะสามารถอยู่รอดในภาวะที่การแข่งขันมีสูงมากขึ้นเรื่อย ๆ
